ใช้รถน้อยเกินไปบางทีก็มีปัญหาชวนให้กังวลใจเหมือนกันนะ เพราะอะไหล่หรืออุปกรณ์บางอย่างไม่ค่อยได้ใช้งานก็ใช่ว่าจะดี เพราะมันสามารถเสื่อมสภาพเองได้ตามเวลา เช่น แบตเตอรี่ รถบางคันจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานานเกินไป พอจะกลับมาสตาร์ทกลายเป็นว่าสตาร์ทไม่ติดเสียแล้ว
อีกสิ่งหนึ่งก็คือ “น้ำมันเครื่อง” มีผู้ใช้รถไม่น้อยที่มีความสับสนและความกังวลใจว่าจะกำหนดระยะการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องให้กับรถของตัวเองอย่างไรดี เนื่องจากระยะทางของการใช้รถกับระยะเวลาที่แนะนำในการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องไม่สัมพันธ์กัน เช่น ใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ที่ควรเปลี่ยนทุก 10,000 กิโลเมตร หรือ 6 เดือน แต่ในความเป็นจริงเมื่อถึงระยะเวลา 6 เดือนแล้วเลขไมล์บนหน้าปัดเพิ่งอยู่ที่ 3,000 หรือ 5,000 กิโลเมตรเท่านั้นเอง ถ้าจะรอให้ถึง 10,000 กิโลเมตรก่อนอาจจะต้องใช้เวลาถึง 1 ปี ครั้นจะรอก็กลัวว่าเครื่องยนต์จะมีปัญหา ครั้นจะเปลี่ยนโดยอ้างอิงตามเวลาก็รู้สึกว่ายังใช้งานได้ไม่คุ้มค่าเลย
ผู้ใช้รถที่กำลังสับสนกับตัวเองในเรื่องนี้ว่าจะเอายังไงดี ลองพิจารณา 3 ทางเลือกต่อไปนี้เพื่อนำไปปรับใช้กับตัวเองเชื่อว่าจะได้ทางออกที่ลงตัวที่สุดทั้งการดูแลเครื่องยนต์และความคุ้มค่าในการใช้น้ำมันเครื่อง
เปลี่ยนตามระยะเวลาทุก 6 เดือน ทางเลือกนี้ต้องบอกว่าเป็นความจำเป็นสำหรับรถใหม่ที่ยังอยู่ในระยะรับประกันของศูนย์บริการ แม้จะรู้สึกว่าน้ำมันเครื่องยังใช้ได้ไม่คุ้มค่าเลยก็ตาม คงต้องทำใจและพิจารณาถึงความสำคัญในเรื่องการรับประกันตามเงื่อนไขของบริษัทรถยนต์เอาไว้ก่อนเพื่อไม่ให้ศูนย์บริการปฏิเสธความรับผิดชอบในการเคลมหรือแก้ไขปัญหาหากเครื่องยนต์มีความผิดปกติเกิดขึ้น
นอกจากนั้นทางเลือกแรกนี้ยังเหมาะสำหรับรถที่มีลักษณะการใช้งานต่อไปนี้ด้วยเช่น รถที่มีการปรับแต่งเครื่องยนต์ แม้จะใช้งานน้อย แต่เมื่อได้นำออกไปขับมีการใช้ความเร็วและรอบเครื่องยนต์ที่ค่อนข้างสูง หรือรถที่ใช้งานเฉพาะกิจ เช่น รถครอบครัวที่ใช้เดินทางท่องเที่ยวที่นานๆ จะได้ขับสักที แต่เมื่อได้ขับต้องเดินทางไกลเป็นระยะทางนับพันกิโลเมตรก่อนที่จะกลับมาจอดอีกครั้ง
กำหนดระยะเวลาใหม่ สำหรับผู้ใช้รถทั่วไปที่ใช้รถเป็นประจำทุกวันแต่มีระยะทางต่อวันไม่มาก เช่น ขับเดินทางไปทำงานแบบเช้าไปเย็นกลับ ไม่ต้องยึดระยะเวลาที่ 6 เดือนก็ได้ เพราะในความเป็นจริงไม่ได้หมายความว่าเมื่อครบ 6 เดือนแล้วน้ำมันเครื่องจะหมดอายุ ดังนั้นสามารถยืดระยะเวลาเป็น 9 เดือน หรือ 1 ปีก็ได้ ทั้งนี้ให้พิจารณาปัจจัยประกอบด้วย เช่น พฤติกรรมการขับ ไม่ใช่คนที่ขับรถเร็ว รวมถึงน้ำมันเครื่องที่ใช้เป็นน้ำมันสังเคราะห์ที่มีคุณภาพ ทั้งนี้ในการยืดเวลาควรหมั่นเช็คสถานะของน้ำมันเครื่องทั้งระดับและลักษณะของความข้นใส
เปลี่ยนประเภทของน้ำมันเครื่อง หากมีความคิดที่ว่ายังคงต้องการยึดระยะเวลาเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก 6 เดือนเพื่อความสบายใจ เพียงแค่รู้สึกเสียดายที่ยังใช้น้ำมันเครื่องได้ไม่คุ้ม อาจใช้วิธีเปลี่ยนประเภทน้ำมันเครื่องเพื่อลดค่าใช้จ่าย เช่น เปลี่ยนจากน้ำมันสังเคราะห์แท้ 100% ไปใช้น้ำมันเทคโนโลยีสังเคราะห์เกรดสูง Technosynthese® เมื่อพิจารณาคุณสมบัติของน้ำมันเครื่องที่ใช้กับระยะทางของการใช้รถ น้ำมันเทคโนโลยีสังเคราะห์เกรดสูง Technosynthese® อย่าง MOTUL Multipower Plus หรือ MOTUL Multipower D-Turbo ก็ถือว่ามีคุณสมบัติที่เพียงพอต่อการปกป้องเครื่องยนต์ได้ในขณะที่ค่าใช้จ่ายลดลง
น้ำมันเครื่อง MOTUL มีให้เลือกใช้ทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล มีทั้งน้ำมันสังเคราะห์แท้ 100% อย่าง 8100 Series, H-TECH Series, Specific CRDi Series และน้ำมันเทคโนโลยีสังเคราะห์เกรดสูง Technosynthese® อย่าง Multipower Plus และ Multipower D-Turbo ผู้ใช้รถสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม สำหรับผู้ใช้รถที่มีระยะทางและระยะเวลาค่อนข้างสัมพันธ์กันตามปกติ น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 100% ของ MOTUL ยังมีระยะทางการใช้งานสูงสุดถึง 15,000 กิโลเมตร (ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน)
