เบอร์น้ำมันเครื่อง เรื่องสำคัญ เลือกใช้ให้เหมาะสม

เบอร์น้ำมันเครื่อง เรื่องสำคัญ เลือกใช้ให้เหมาะสม

น้ำมันเครื่องเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากกับเครื่องยนต์ไม่เพียงทำหน้าที่เป็นฟิล์มป้องกันการเสียดสีและลดการสึกหรอของชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์เท่านั้น แต่ยังมีผลถึงสมรรถนะทั้งอัตราเร่งตลอดจนอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงด้วย ดังนั้น เบอร์น้ำมันเครื่อง และการเลือกใช้น้ำมันเครื่องให้เหมาะสมกับเครื่องยนต์เป็นเรื่องที่สำคัญ

การเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่เหมาะสมไม่ได้หมายถึงการใช้น้ำมันเครื่องที่ดีที่สุด แพงที่สุด หรือหมายถึงว่าจะต้องเป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์เสมอไป แต่คือการเลือกค่าความหนืดที่เหมาะสมกับสภาพของเครื่องยนต์และการใช้งาน

เวลาที่นำรถไปเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องโดยเฉพาะการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องกับอู่หรือสถานบริการทั่วไป แล้วได้รับคำถามว่า “ใช้น้ำมันเครื่องอะไรดี” นอกจากดูยี่ห้อและดูว่าเป็นน้ำมันเครื่องธรรมดา กึ่งสังเคราะห์ หรือสังเคราะห์แท้แล้ว ให้พิจารณา “เบอร์น้ำมันเครื่อง” ด้วย ซึ่งจะมีตัวเลขและตัวอักษรในลักษณะนี้ 0W20, 5W30, 10W40 แสดงอยู่บนฉลากของบรรจุภัณฑ์ โดยตัวเลขที่อยู่ข้างหน้า W เป็นค่าความหนืดในกรณีที่เครื่องยนต์เย็น ส่วนตัวเลขข้างหลัง W เป็นค่าความหนืดในขณะที่เครื่องยนต์มีการทำงานซึ่งมีอุณหภูมิสูง สำหรับระดับค่าของความหนืดนั้น หากตัวเลขหน้า W มีค่าน้อย ความหนืดของน้ำมันจะต่ำกว่าตัวเลขมาก (0W, 5W, 10W, 15W, 20W, 25W) และถ้าตัวเลขหลัง W มีค่ามาก ความหนืดก็จะยิ่งสูง (20, 30, 40, 50, 60)

 

      ในขณะที่เครื่องยนต์เย็นระบบต้องการน้ำมันเครื่องที่มีความหนืดต่ำหรือมีความข้นใสสูง (อ้างอิงจากเลขข้างหน้า) เพื่อให้สามารถจ่ายน้ำมันเครื่องไปหล่อเลี้ยงชิ้นส่วนที่อยู่ด้านบนได้อย่างรวดเร็ว ลดการสึกหรอจากการเสียดสี เมื่อเครื่องยนต์ถึงอุณหภูมิการทำงานแล้วความหนืดของน้ำมันเครื่องควรอยู่ในระดับที่เหมาะสมไม่ใสจนเกินไป (อ้างอิงจากเลขข้างหลัง) เพราะไม่เช่นนั้นการทำหน้าที่เป็นฟิล์มป้องกันการเสียดสีระหว่างชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์จะบางเกินไป ส่งผลให้มีการสึกหรอสูง การทำงานของเครื่องยนต์มีเสียงดัง และยังส่งผลให้น้ำมันเครื่องพร่องเร็วกว่าปกติ แต่ถ้าน้ำมันเครื่องหนืดเกินไปก็ไม่ดีอีกเช่นกัน เพราะจะส่งผลให้เครื่องยนต์อืดเร่งไม่ขึ้นและกินน้ำมันด้วย

 

การเลือกเเบอร์น้ำมันเครื่องไม่มีข้อกำหนดที่แน่นอน แต่ประเมินได้จากอายุการใช้งานของเครื่องยนต์รวมถึงลักษณะการขับขี่และใช้งาน หากเป็นรถใหม่ควรเลือกเบอร์น้ำมันที่มีความหนืดต่ำทั้งเลขข้างหน้าและเลขข้างหลังเพื่อให้น้ำมันสามารถเข้าถึงชิ้นส่วนต่างๆ ของเครื่องยนต์ได้อย่างทั่วถึงเนื่องจากระยะห่างระหว่างชิ้นส่วน (Clearance) ยังมีน้อย (สำหรับรถใหม่ควรอ้างอิงและใช้น้ำมันเครื่องตามคู่มือประจำรถ)

สำหรับเครื่องยนต์มีอายุการใช้งานหลายปีหรือมีระยะทางเกินกว่า 100,000 กม.ขึ้นไป หรือรถที่มีการใช้งานหนักจะเป็นการบรรทุกหนักหรือใช้ความเร็วสูงขับทางไกลเป็นประจำก็ตามให้เพิ่มความหนืดของเลขข้างหลังให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มความหนาในการทำหน้าที่เป็นฟิล์มป้องกันการเสียดสีของชิ้นส่วน ส่วนจะใช้เบอร์อะไรดีนั้นอาจอ้างอิงจากเบอร์ของน้ำมันเครื่องที่ใช้ในช่วงแรกตามคำแนะนำของคู่มือประจำรถ เช่น ในช่วงแรกใช้น้ำมันเครื่องเบอร์ 5W-30 หลังจากนั้นอาจขยับไปใช้เบอร์ 5W-40 เป็นต้น

เลขข้างหน้าอาจจะไม่ต้องกังวลมากนักเพราะบ้านเราเป็นเมืองร้อนไม่มีปัญหาเรื่องของน้ำมันเครื่องมีความหนืดสูงจนไม่สามารถขึ้นไปหล่อเลี้ยงชิ้นส่วนได้ทันในช่วงจังหวะเครื่องยนต์เย็นเหมือนกับรถที่ใช้ในเมืองหนาว

สำหรับผู้ใช้รถที่กำลังมองหาน้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพ MOTUL มีน้ำมันเครื่องรองรับสำหรับเครื่องยนต์ทุกประเภททั้งเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ที่มีระบบ DPF (MOTUL Specific CRDi) , เครื่องยนต์เบนซินทั้งที่มีและไม่มีเทอร์โบรวมถึงรถยนต์ที่ติดแก๊ส LPG และ NGV ( MOTUL H-TECH 100 Plus ) ตลอดจนเครื่องยนต์สมรรถนะสูง , รถยุโรป (MOTUL 8100 SERIES) โดยมีเบอร์ของน้ำมันให้เลือกใช้ตามความต้องการ

 

 

 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า